'Redmi Go' กับความคุ้มค่าในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ '5G'

อีกไม่นาน เราก็จะเข้าสู่ยุค 5G กันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งแบรนด์โทรศัพท์มือถืออันดับต้นๆ จากประเทศจีน อย่าง เสียวหมี่ (Xiaomi) ที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งผู้นำด้านเทคโนโลยีอยู่ในขณะนี้ ได้ออกมาให้คำแนะนำกับผู้ที่ใช้กำลังใชงานโทรศัพท์มือถือฟีเจอร์โฟน ให้เตรียมเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟน ก่อนที่จะไม่สามารถใช้งานได้อีก

ในปัจจุบันนั้นมีโทรศัพท์มือถือราคาระดับกลาง ลงมาจนถึงถูกอยู่หลายรุ่นให้ได้จับจองมาใช้งานกัน อีกทั้งแต่ละเครือข่ายก็มีโปรโมชั่นที่เหมาะสมเตรียมพร้อมไว้ให้กับการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ก่อนที่เครือข่าย 2G จะให้บริการในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เป็นวันสุดท้าย ส่งผลให้โทรศัพท์มือถือที่เป็น 2G ทั้งหมดใช้งานไม่ได้ ที่สำคัญ การเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตะได้จะช่วยเพิ่มโอกาสใหม่และมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนอีกว่าล้านคนให้ดีกว่าเดิมขึ้นได้

กสทช. หรือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบให้หยุดการให้บริการเครือข่าย 2G หลังวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การให้บริการเครือข่าย 5G ในปี 2563 จากข้อมูลที่ได้มีการรวบรวมไว้จะเห็ได้ว่า ยังมีผู้ใช้งานอยู่บนเครือข่าย 2G กว่า 4.9 ล้านคน โดยมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนมาใช้ 3G และ 4G หลังจะนี้ เพื่อไม่ทำให้การติดต่อสื่อสารขาดหายไป

ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับผู้ใช้งานระบบ 2G จะเปลี่ยนมาเป็นระบบ 3G หรือ 4G

1. ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ หากเป็นโทรศัพท์มือถือในระบบ 2G จะพบสัญลักษณ์ “2G” “EDGE” “GPRS” หรือ “E” ปรากฎให้เห็นมุมบนด้านขวาของโทรศัพท์มือถือ พบว่าบางรุ่นที่ออกมาใช้งานเป็นเวลานานมาก จะไม่พบสัญลักษณ์ 2G ปรากฎให้เห็น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ใช้สำหรับโทรเข้า-ออก และรับ-ส่งข้อความเพียงอย่างเดียว หากโทรศัพท์มือถือมีสัญลักษณ์  “3G” “H+”  “4G” หรือ “LTE” ปรากฎให้เห็น แสดงว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นรองรับเครือข่าย 3G และ 4G ทำให้หมดกังวลในการปรับการใช้งานให้เข้ากับระบบ
2. อัพเกรดมาใช้งานสมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือระบบ 2G จะไม่สามารถใช้ติดต่อสื่อสารทางเสียง หรือส่งข้อความหลังจากวันที่ 31 ตุลาคมเป็นต้นไป หากท่านต้องการติดต่อกับคนใกล้ชิด หรือสมาชิกในครอบครัว จำเป็นที่จะต้องใช้งานสมาร์ทโฟนที่รองรับเครือข่าย 3G หรือ 4G เท่านั้น โดยในปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนราคาประหยัดมากมายหลายรุ่นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโทรเข้า โทรออก รับสายและส่งข้อความบางครั้งคราวเท่านั้น การอัพเกรดมาเป็นสมาร์ทโฟนจะช่วยให้ท่านไม่พลาดโอกาสในการติดต่อกับบุคคลที่ท่านรัก และยังสามารถเลือกใช้งานวิดีโอคอลผ่านกล้องในการติดต่อได้อีกด้วย สมาร์ทโฟนยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกมากมายสำหรับการใช้งาน เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้บริการจำนวนมากที่ต้องการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือแบบเดิมมาเป็นสมาร์ทโฟนเมื่อใกล้ถึงเวลายุติการให้บริการเครือข่าย 2G ขอแนะนำให้รีบดำเนินการเปลี่ยนแปลงระบบล่วงหน้า โดยไม่ควรรอจนใกล้ถึงวันระงับการให้บริการจึงดำเนินการ
3. เปลี่ยนซิมการ์ด และอัพเกรดแผนการใช้งานระบบเครือข่าย 3G หรือ 4G ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายของท่าน โดยท่านยังสามารถที่จะใช้งานหมายเลขโทรศัพท์เดิมต่อเนื่องต่อไปได้ การอัพเกรดแผนการใช้บริการจะไม่เสียค่าใช้จ่าย (หรืออาจมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น) โดยแพ็คเกจการใช้งานระบบ 3G และ 4G นั้น อัตราค่าบริการอาจไม่สูงกว่าอัตราค่าบริการเดิมที่ท่านใช้งานอยู่ ผู้ให้บริการเครือข่ายของท่าน อาจจัดเวิร์คช็อปภายในศูนย์ให้บริการ เพื่อให้ท่านได้คุ้นเคยกับการใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานระบบ 3G และ 4G ได้ต่อไป

ทั้งนี้ นาย จอห์น เฉิน ผู้จัดการประจำประเทศไทย เสียวหมี่ เทคโนโลยี ก็ได้ออกมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เสียวหมี่ ต้องการให้ผู้ที่ใช้บริการเครือข่าย 2G เตรียมพร้อมมากที่สุดก่อนที่จะมีการยุติการให้บริการเครือข่าย 2G ซึ่งใกล้ที่จะมาถึงในเดือนตุลาคมนี้ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเราต้องแนะนำเตรียมตัวหาข้อมูลที่จำเป็นในการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ และแผนการใช้งานไว้ก่อนล่วงหน้า โดย เสียวหมี่ ต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่นำเสนอด้วยราคาที่จริงใจ และความรู้สึกถึงการอยู่ร่วมกันเป็นคอมมิวนิตี้ที่อบอุ่น สำหรับผู้ใช้บริการฟีเจอร์โฟนในขณะนี้ เสียวหมี่ ขอแนะนำ เรดหมี่ โก (Redmi Go) ซึ่งเปิดตัวโดยได้ร่วมกับ เอไอเอส มอบแพ็คเก็จราคาพิเศษเพียง 790 บาท จะเป็นรุ่นที่เหมาะสมในการใช้งานของท่านมากที่สุด”

สำหรับผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือคนไหนที่ต้องการทางเลือกมากกว่าการโทรเข้า โทรออก หรือส่งข้อความ 'เรดหมี่ โก' ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยจะมีการติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่จำเป็นไว้ในเครื่อง ทำให้ใครๆ ก็สามารถที่จะติดต่อถึงกันได้ ส่วนใครที่ชื่นชอบการเดินทาง ก็ยังมีระบบนำทางด้วย GPS ที่อำนวยความสะดวกในด้านระบบขนส่ง เรียกได้ว่าเป็นการก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนให้การดำเนินชีวิตเราง่ายยิ่งขึ้น

ไม่ใช่แค่เรื่องของซอฟท์แวร์เท่านั้น แต่ 'เรดหมี่ โก' ยังมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ ให้แบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 3,000 mAh สนทนาต่อเนื่องได้ยาวนาน 12 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีกล้องหน้าและกล้องหลังที่รองรับการถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอ จะเซลฟี่ก็สวยชัด จะถ่ายวิวก็คมเคลียร์

ใครที่เริ่มสนใจ 'เรดหมี่ โก' แล้วก็ลองไปหาจับจองมาเป็นเจ้าของกันได้ในราคา 2,699 บาท

ขอบคุณข้อมูล Sanook! Hitech