หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกคำสั่งแบนแอปพลิเคชันหลายตัวจากจีนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง หนึ่งในนั้นคือ Tiktok แอปฯ สร้างสรรค์วิดีโอสั้นซึ่งกำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยทรัมป์ได้ให้เวลา 45 วัน ในการที่ไมโครซอฟต์จะเข้าซื้อกิจการบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าวในสหรัฐเพื่อให้ขาดจากการควบคุมของบริษัทแม่ในจีน อย่าง Bytedance แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอะไรบางอย่าง ที่ทำให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความกระอักกระอ่วนจากหลายฝ่าย
ในระหว่างที่สถานการณ์ดังกล่าวยังมองไม่เห็นทางเดินว่าจะเป็นยังไงต่อไป Instagram แอปพลิเคชันเครือข่ายสังคมและรูปภาพที่มีบริษัทแม่เป็น Facebook ได้ออกมาเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า Reels หลังจากที่ทรัป์ออกคำสั่ง 2 วัน ซึ่งความสามารถของมันคือการสร้างสรรค์คลิปวิดีโอความยาวไม่เกิน 15 วินาที คล้ายกับ Tiktok โดยที่ผู้ใช้สามารถเลือกเพลงที่อยู่ในคลังของรีลส์มาใช้งานได้ เฟซบุ๊กได้ใช้เวลาในการพัฒนาฟีเจอร์นี้อย่างน้อย 2 ปี และเริ่มเปิดให้ทดลองไปแล้วเมื่อปี 2561 ที่บราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี และบราซิล
ก่อนหน้านี้ อินสตาแกรม เคยพัฒนาแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Lasso (แลซโซ) ทีมีฟีเจอร์ในลักษณะเดียวกันมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดย เควิน เมเยอร์ ผู้บริหารของแอปพลิเคชัน Tiktok ได้ออกมาโจมตีว่าฟีเจอร์รีลส์เป็นผลิตภัณฑ์เลียนแบบที่หวังจะใช้ประโยชน์จากผู้ใช้งาน IG กว่าหนึ่งพันล้านบัญชี ในขณะเดียวกัน วิชัล ชาห์ รองประธานด้านผลิตภัณฑ์ของอินสตาแกรมก็ได้ออกมายอมรับว่า รีลส์และติ๊กต็อกมีความคล้ายคลึงกัน โดยยังบอกอีกว่า 'แรงบันดาลใจในการออกแบบมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง'
สิ่งที่เหนือกว่าของฟีเจอร์รีลส์คือการสร้างสรรค์ที่ซับซ้อนได้มากกว่าติ๊กต็อก ไม่ว่าจะวางรูปซ้อนทับ หรือใส่ฟิลเตอร์ในคลิปวิดีโอ แต่ระบบอัลกอริธึมของทั้งสองแอปฯ ก็มีความคล้ายคลึงกัน อาทิ การแสดงผลคลิปของผู้ใช้งานที่ไม่เป็นที่รู้จัก โดยหากตั้งค่าเป็นสาธารณะ คลิปก็จะอยู่ในหน้า Explore ทำให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ เห็นผลงานของเราได้ หรืออนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันเรื่องราวกับเพื่อนผ่านการโพสต์ซ้ำ หรือส่งข้อความส่วนตัวได้
หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ได้ออกมารายงานว่า Facebook เคยเสนอเงินให้กับวิดีโอที่ได้รับความนิยมบน Tiktok เพื่อให้มาผลิตเนื้อหาบน Reels แทน ซึ่งทางโฆษกเฟซบุ๊กได้ออกมาตอบว่า เฟซบุ๊กจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการผลิตเนื้อหาสำหรับผู้ใช้งานได้รับความนิยม เพียงแต่ตอนนี้ ยังไม่มีแผนจะเปิดให้ผู้ใช้งานรีลส์สามารถหารายได้จากการสร้างผลงานแต่อย่างใด
0 ความคิดเห็น