iPhone 12 นับเป็นว่าเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จาก Apple ที่ใครหลายคนต่างเฝ้ารอการเปิดตัว หลังจากที่อกหักไปแล้วจากอีเวนต์เมื่อวันที่ 15 กันยายน ที่เปิดตัวแค่ iPad Gen 8 และ iPad Air 4 เท่านั้น จนมีความเคลื่อนไหวต่อมาว่าการเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่อาจจัดขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งช้ากว่ากำหนดเดิมไป 1 เดือน เหตุเพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ดูเหมือนว่าหลายฝ่ายจะรู้กันอยู่แล้วว่าใน Apple Event September 2020 ที่ผ่านมา ไม่มีแผนที่จะเปิดตัว iPhone 12 เพราะแหล่งข่าวจากวงใน ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศ ตลอดจนนักปล่อยข่าวหลุดก็เอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขานั้นรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากทำให้สาวกต้องผิดหวังกับการรอคอยที่จะเปิดตัว เลยเลือกที่จะเงียบเอาไว้ดีที่สุด ส่วนทางฝั่งแอปเปิ้ลเอง ก็พยายามที่จะอัปเดตความเคลื่อนไหวให้แฟน ๆ ได้รู้ ว่า iPhone 12 จะเปิดตัวในอีกประมาณ 3 สัปดาห์ข้างหน้า หรือประมาณกลางเดือนตุลาคม หากจะลงรายละเอียดให้ชัดเจน จัดงานเปิดตัววันที่ 13 ตุลาคม เปิดให้จอง 16 ตุลาคม สำหรับกลุ่มประเทศแรก และ 23 ตุลาคม จะเป็นที่วันที่ทำการส่งมอบของให้กับประเทศกลุ่มแรกที่ได้มีการสั่งจอง
ความเคลื่อนไหวต่อมา เป็นเรื่องของชื่อรุ่นต่าง ๆ ใน iPhone 12 Series มีทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบไปด้วย iPhone 12 Mini , iPhone 12 , iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ทั้งยังสรุปได้ว่า iPhone 12 ที่มีขนาดหน้าจอเล็กที่สุดเพียง 5.4 นิ้ว จะมีชื่อ Mini ห้อยท้ายมาด้วย ส่วน iPhone 12 และ iPhone 12 Pro จะมีขนาดเท่ากัน จะต่างกันก็เพียงหน้าจอ กล้อง และความจุแบตเตอรี่ ปิดท้ายด้วยตัวท็อป อย่าง iPhone 12 Pro Max ก็จะมีสเปกทุกอย่างเหมือนกับรุ่น Pro เพียงแต่จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.7 นิ้ว ดูใหญ่กว่าเดิมมาก ๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่หากไม่พูดถึงเลยก็คงจะไม่ได้ เป็นเรื่องการดีไซน์ของตัวเครื่องที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ซึ่งประเด็นนี้ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้คนทั่วโลก แต่ ยังไม่มีอะไรออกมายืนยันถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้เห็นสักที และสด ๆ ร้อน ๆ มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก Jon Prosser นักวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ได้ออกมายืนยันอีกครั้งว่า สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่จากแอปเปิ้ลจะเปิดตัวในวันที่ 12 ตุลาคม (13 ตุลาคมนี) นี้อย่างแน่นอน
ยัง ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะใน iPhone 12 รุ่น Pro และ Pro Max จะมาพร้อมกับสีใหม่ อย่าง Dark Blue หรือสีน้ำเงิน มาแทนที่ Midnight Green หรือสีเขียวที่มีการเปิดตัวไปเมื่อครั้ง iPhone 11 Pro มาถึง โดยค่อนข้างมีความเป็นไปได้สูง เพราะอย่างใน Apple Watch Series 6 ก็มีสีน้ำเงินให้เห็นแล้ว ส่วนเรื่องราคา คาดกันว่า iPhone 12 Mini จะเริ่มต้นที่ 21,xxx บาทขึ้นไป ส่วนรุ่นอื่น ๆ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามสเปกที่ได้ ที่สำคัญ ทุกรุ่นจะรองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G จึงอาจเป็นที่มาของการตัดอุปกรณ์เสริมในกล่องออกไปเพื่อรักษาไม่ให้ตัวเครื่องมีราคาแพงจนสาวกต้องโอดโอย
0 ความคิดเห็น