POCO เปิดตัว POCO X3 NFC สมาร์ตโฟนระดับกลาง มาพร้อมฟีเจอร์ในเครื่องสุดเทพ

POCO แบรนด์ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือจาก Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ อย่าง POCO X3 NFC อย่างเป็นทางการ นับเป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 732G ซึ่งแรงที่สุดในกลุ่มของชิปตระกูล 700 Series เพียงแต่ในรุ่นนี้จะรองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G เท่านั้น

POCO X3 NFC

POCO X3 NFC มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว แบบ Dots Display ความละเอียด Full HD+ เป็นกระจก Gorilla Glass 5 อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate อยู่ที่ 120Hz ไปจนถึงอัตราการตอบสนองที่ 240Hz ตัวเครื่องผลิตขึ้นจากพลาสติกที่ดูดี สวยงาม แต่มีความแข็งแรง ให้ RAM 6GB ส่วน ROM ก็มีให้เลือกตั้งแต่ 64 - 128GB สามารเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 256GB มีเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool Technology 1.0 Plus ที่ประกอบไปด้วย Heat Pipe ขนาดใหญ่และมีการใช้ Graphite มาช่วยเพิ่มเติม

POCO X3 NFC

มาดูที่เรื่องกล้องกันบ้าง กล้องหน้าให้มา 1 ตัว ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล F2.2 ส่วนกล้องหลังให้มาถึง 4 ตัว ประกอบไปด้วย กล้องตัวที่ 1 กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล F1.7 , กล้องตัวที่ 2 เป็นกล้อง Wide Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล , กล้องตัวที่ 3 เป็นกล้อง Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 4 เป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล การถ่ายวิดีโอทำได้มากถึง 4K

POCO X3 NFC

POCO X3 NFC ให้แบตเตอรี่ความจุ 5160 mAh รองรับระบบชาร์จกำลังไฟ 33W ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ USB Type C ยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เช่นเดิม และมีระบบสแกนลายมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับ MIUI 12 ที่สามารถอัปเดตเป็น MIUI เวอร์ชันใหม่ได้นาน 3 ปี

นอกจากนั้นรุ่นนี้ก็มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Shadow Gray และ Cobalt Blue ด้านหลังมีสัญลักษณ์ POCO ขนาดใหญ่ ราคาเปิดตัวก็มีดังนี้

  • RAM 6GB / ROM 64GB = 229 ยูโร หรือประมาณ 8,500 บาท
  • RAM 6GB / ROM 128GB = 269 ยูโร หรือประมาณ 9,900 บาท

ข่าวดีสำหรับการ Pre-Order ในฝั่งยุโรป โดยราคาจะถึงลงจากราคาเปิดตัว เหลือประมาณ 199 ยูโร และ 249 ยูโร อีกทั้งยังแถมสมาร์ตวอตช์จาก Black Shark ให้อีกด้วย สำหรับใครที่รอรุ่นนี้อยู่ต้องมาติดตามกันต่อว่าจะถูกนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไหร่

POCO X3 NFC

อ่านเพิ่มเติม : ข่าวไอที ข่าวมือถือ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น