Apple ปล่อยอัปเดต iOS และ iPad OS เวอร์ชัน 14.1 แก้บั๊กใน iPhone 12

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Apple ก็ได้ปล่อยอัปเดตตัวใหม่ของระบบปฏิบัติการ iOS และ iPad OS ในเวอร์ชัน 14.1 แล้ว โดยมีการแก้ไขฟีเจอร์สำคัญ ๆ ในหลายจุด ทั้งอุปกรณ์รุ่นใหม่และรุ่นเก่า ซึ่งรายละเอียดมีค่อนข้างเยอะมาก เรารวบรวมมาให้ได้อ่านกันว่ามีอะไรที่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นบ้าง

iOS 14.1

• เพิ่มการรองรับการเล่นวิดีโอ HDR แบบ 10 และให้สามารถแก้ไข้ได้ในแอปพลิเคชันรูปภาพสำหรับ iPhone 8 ขึ้นไป
• จัดการปัญหาที่ทำให้วิดเจ็ต โฟลเดอร์ และไอคอนบางรายการแสดงในขนาดที่ลดลงบนหน้าจอ HOME
• จัดการปัญหาที่อาจทำให้การลากวิดเจ็ตบนหน้าจอ HOME ไปลบแอปออกจากโฟลเดอร์
• แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้อีเมลบางฉบับในแอปเมล์ถูกส่งด้วยนามแฝงที่ไม่ถูกต้อง
• แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้สายโทรเข้าไม่สามารถแสดงข้อมูลของภูมิภาคได้
• แก้ไขปัญหาบนอุปกรณ์บางเครื่องที่อาจทำให้การเลือกโหมดการแสดงผลแบบซูมและรหัสตัวอักษร ไปจนถึงตัวเลขสำหรับการโทรเฉินบนหน้าจอขึ้นไปซ้อนทับกับช่องป้อนข้อความ
• จัดการปัญหาที่ทำให้ในบางครั้ง ผู้ใช้งานบางรายไม่สามารถดาวน์โหลด หรือเพิ่มเพลงลงไปยังคลังของตัวเองได้ระหว่างที่ดูอัลบั้ม หรือเพลย์ลิสต์
• แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถแสดงเลขศูนย์ในแอปเครื่องคิดเลขได้
• แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้วิดีโอที่มีการสตรีมถูกลดความละเอียดลงชั่วคราวเมื่อเริ่มเล่น
• แก้ไขปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถตั้งค่า Apple Watch ของสมาชิกครอบครัวในผู้ใช้บางรายได้
• แก้ไขปัญหาที่ทำให้วัสดุตัวเรือนของ Apple Watch แสดงในแอป Apple Watch อย่างไม่ถูกต้อง
• จัดการปัญหาในแอปไฟล์ที่อาจทำให้ผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีการจัดการ MDM บางราย แสดงเนื้อหาอย่างไม่ต้องว่าไม่พร้อมใช้งาน
• ปรับปรุงความเข้ากันได้กับจุดเข้าถึงสายไร้สายของ Ubiquiti

iPad OS 14.1

• เพิ่มการรองรับการเล่นวิดีโอ HDR แบบ 10 บิต และให้สามารถแก้ไข้ได้ในแอปพลิเคชันรูปภาพสำหรับ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 2) ขึ้นไป , iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว , iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว , iPad Air (รุ่นที่ 3) ขึ้นไป และ iPad mini (รุ่นที่ 5)
• จัดการปัญหาที่ทำให้วิดเจ็ต โฟลเดอร์ และไอคอนบางรายการแสดงในขนาดที่ลดลงบนหน้าจอ HOME
• แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้อีเมลบางฉบับในแอปเมล์ถูกส่งด้วยนามแฝงที่ไม่ถูกต้อง
• จัดการปัญหาที่ทำให้ในบางครั้ง ผู้ใช้งานบางรายไม่สามารถดาวน์โหลด หรือเพิ่มเพลงลงไปยังคลังของตัวเองได้ระหว่างที่ดูอัลบั้ม หรือเพลย์ลิสต์
• แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้วิดีโอที่มีการสตรีมถูกลดความละเอียดลงชั่วคราวเมื่อเริ่มเล่น
• จัดการปัญหาในแอปไฟล์ที่อาจทำให้ผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีการจัดการ MDM บางราย แสดงเนื้อหาอย่างไม่ต้องว่าไม่พร้อมใช้งาน

ทั้งนี้ คุณสมบัติบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้แบบครบทุกภูมิภาค หรือไม่สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ของ Apple บางรุ่น สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาความปลอดภัยของรายการอัปเดตซอฟต์แวร์ เข้าไปอ่านเพิ่มได้ที่เว็บไซต์ https://support.apple.com/th-th/HT201222

เงื่อนไขในการอัปเดต อุปกรณ์จะต้องมีแบตเตอรี่มากกว่า 50% หรืออาจเสียบชาร์จไว้ได้ และจะต้องเชื่อมต่อ WiFi เท่านั้น วิธีการอัปเดต เข้าไปที่ Setting (ตั้งค่า) > General (ทั่วไป) > Software Update โดยมีอุปกรณ์ที่รองรับดังนี้

iPhone

• iPhone 11
• iPhone 11 Pro
• iPhone 11 Pro Max
• iPhone XS
• iPhone XS Max
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8
• iPhone 8 Plus
• iPhone 7
• iPhone 7 Plus
• iPhone 6s
• iPhone 6s Plus
• iPhone SE รุ่นแรก
• iPhone SE (2020)
• iPod touch รุ่นที่ 7
• iPhone 12
• iPhone 12 Mini
• iPhone 12 Pro
• iPhone 12 Pro Max

iPad

• iPad Pro 12.9-inch (4th generation)
• iPad Pro 11-inch (2nd generation)
• iPad Pro 12.9-inch (3rd generation)
• iPad Pro 11-inch (1st generation)
• iPad Pro 12.9-inch (2nd generation)
• iPad Pro 12.9-inch (1st generation)
• iPad Pro 10.5-inch
• iPad Pro 9.7-inch
• iPad (8th generation)
• iPad (7th generation)
• iPad (6th generation)
• iPad (5th generation)
• iPad mini (5th generation)
• iPad mini 4
• iPad Air (3rd generation)
• iPad Air 2
• iPad Air (4th Generation)

อ่านเพิ่มเติม : ข่าวไอที ข่าวมือถือ