Apple ตกลงจ่าย 3,400 ล้านบาท เพื่อยุติกรณี Batterygate แล้ว iPhone ถูกลดความเร็วลง

Washington Post ได้ออกรายงานว่า Apple ได้ยินยอมที่จะจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวน 113 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,400 ล้านบาท จากกรณีที่เกิดปัญหา Batterygate ซึ่งมีการฟ้องร้องกันใน 34 รัฐ หลังจากที่พบว่าแอปเปิ้ลลดประสิทธิภาพการใช้งาน iPhone รุ่นเก่าลง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำงานที่เกิดจากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ

Apple iPhone

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 มีผู้ใช้งานพบว่า ประสิทธิภาพในการทำงานของ iPhone รุ่นเก่า ๆ ลดลง ภายหลังที่มีการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS เป็นเวอร์ชันใหม่ โดยในเดือนธันวาคม 2017 แอปเปิ้ลได้ออกมายอมรับถึงปัญหาดังกล่าวและอธิบายว่าเป็นการป้องไม่ให้อุปกรณ์รุ่นเก่าหยุดทำงานอย่างกะทันหัน เนื่องมาจากแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเสื่อมสภาพ จึงเป็นที่มาของการฟ้องร้องในกรณีที่เกิดปัญหา Batterygate ขึ้น

Apple iPhone

Mark Brnovich อัยการสูงสุดของรัฐแอริโซนาได้กล่าวว่า "บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต้องหยุดหลอกลวงผู้บริโภค และต้องบอกความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและผลิตภัณฑ์ของบริษัท" โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แอปเปิ้ลต้องจ่ายค่าปรับมูลค่า 25 ล้านยูโร หรือประมาณ 897 ล้านบาท ให้แก่ประเทศฝรั่งเศส ในกรณีที่ลดความเร็วของ iPhone หลังจากที่อัปเดตระบบปฏิบัติการ และเมื่อเดือนมีนาคม 2020 แอปเปิ้ลก็ต้องจ่ายเงินค่าปรับเป็นจำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 15,100 ล้านบาท จากการฟ้องร้องบนข้อพิพาทในลักษณะเดียวกัน

นอกจากนี้ Apple ยังจะต้องชี้แจงวิธีการรับมือกับคุณภาพของแบตเตอรี่และการใช้พลังงานแบตเตอรี่ให้แก้ผู้ใช้งานทั้งทางออนไลน์และโดยตรง ผ่านอุปกรณ์ของตัวเองอีกด้วย


อ่านเพิ่มเติม : ข่าวไอที ข่าวมือถือ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น