Thailand Mobile Expo 2019 กับ 7 ข้อแนะนำก่อนมาเลือกซื้อมือถือ !

มาถึงอีกครั้ง ! กับงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่าง 'Thailand Mobile Expo 2019' ซึ่งเริ่มขึ้นแล้วเมื่อวานนี้วันแรก (30 พฤษภาคม 2562) โดยงานจะมีตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2562 ที่ไบเทค บางนา ภายในงานก็จะมีโทรศัพท์มือถือจากหลายค่าย หลายแบรนด์ ขนมาให้เราเลือกจับจองเป็นเจ้าของกันละลานตา พร้อมด้วยโปรโมชันและราคาเครื่องสุดพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีโปรโมชันสำหรับลูกค้าที่ถือบัตรเครดิต ยังจะได้รับสิทธิ์ผ่อน 0% , แคชแบ็ค หรือใช้แต้มลดแบบท็อปอัป ดังนั้นใครที่ตัดสินใจจะออกไปเดินงานนี้ เรามี 7 ข้อแนะนำก่อนเลือกซื้อมาฝากให้ได้อ่านกัน !

1. คิดเอาไว้ก่อนว่าอยากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นไหน

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนเป็นเครื่องใหม่แน่ๆ ขอให้เราเตรียมตัวและทำการบ้านไปจากที่บ้านให้ดีเสียก่อน ควรจะมีรุ่นที่อยากได้สัก 2 - 3 รุ่นไว้เป็นตัวเลือก โดยให้ราคาอยู่ในระดับที่เราสามารถจ่าย เพราะหากไม่เตรียมตัวให้ดี เราอาจได้เดินอยู่ในงานทั้งวันแบบที่ไม่ได้อะไรติดมือกลับบ้านมาสักอย่างเดียว

2. ศึกษาข้อมูลสมาร์ตโฟนที่อยู่ในใจให้ถี่ถ้วน

เมื่อมีรุ่นที่อยากได้เอาไว้ในใจแล้ว ต่อมาก็ขอให้ศึกษาข้อมูลตัวเครื่องและฟีเจอร์ต่างๆ ให้ละเอียดซะก่อน เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวโดยตรง คนขายก็คงไม่ได้รู้ข้อมูลมากถึงขั้นที่เราถามอะไรก็ตอบได้ บางทีเรามีการลองเชิงดู ปรากฏเขาก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับตัวเครื่องนั้นจริงๆ สเปกเป็นอย่างไร ใส่เมมโมรีการ์ดได้หรือไม่ มีช่องหูฟัง 3.5 มม. รึเปล่า ใช้พอร์ตอะไรเป็นหลัก ต้องเช็กให้ชัวร์เพื่อความมั่นก็ควักกระเป๋าจ่าย

3. ถามในสิ่งที่ไม่รู้ให้ได้รู้มากที่สุด

ถึงแม้ว่าเราจะศึกษาข้อมูลของโทรศัพท์มือถือที่ต้องการจะซื้อมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่เรื่องของโปรโมชันก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องไปอัปเดตอีกครั้งภายในงาน อยากซื้อร้านไหน ให้มุ่งตรงไปถามที่ร้านนั้น บางทีข้อมูลที่ให้ไว้ในแผ่นพับก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหน้างาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซื้อด้วยเงินสดที่ราคาที่บอกกับราคาที่ซื้อไม่เท่ากัน บางร้านอาจมีผ่อน 0% ได้หลายๆ เดือน หรือบางร้านก็อาจมีของแถมให้เพิ่มอีกจากที่ต้องแถมอยู่ปกติ ซึ่งเราก็ได้เตรียมคำถามบางส่วนมาฝาก

• หากต้องการจะซื้อด้วยเงินสดมีส่วนลดรึเปล่า มีของแถมอะไรให้บ้าง ?
• มีบัตรเครดิต หรือบัตรเงินสดของธนาคารไหนที่เข้าร่วมบ้าง มี Cash Back รึเปล่า สามารถผ่อน 0% ได้กี่เดือน ?
• ตัวเครื่องมีรายละเอียดการประกันยังไงบ้าง ? ดีลเลอร์เป็นใคร ? เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ผู้ซื้อจะต้องถามให้แน่ใจ ถึงแม้โดยปกติตัวประกันจะเป็นของศูนย์ไทย ที่ไม่ว่าจะซื้อจากที่ไหนก็สามารถเข้าศูนย์บริการได้ทุกแห่งก็ตาม บางทีเราอาจจะมีข้อสงสัยเพิ่มเติม จะได้มีข้อมูลในส่วนนี้เตรียมไว้ก่อนที่จะเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด
• เรื่องของการต่อราคา อันนี้ก็ไม่แน่นอนเสมอไป เพราะบางร้านก็สามารถต่อได้ ส่วนบางร้านก็ลดให้ไม่ได้จริงๆ ผู้ซื้อจะต้องถามให้ดีก่อน

เมื่อเกิดความชัวร์แล้วก็ให้เตรียมเงินสดและบัตรเครดิตให้พร้อม พิจารณาจากข้อมูลที่เราถามๆ มาว่าการซื้อแบบไหนให้ความคุ้มค่ามากที่สุด

4. ถามให้ครบทุกร้าน สงสัยให้ครบทุกบูธ

เรื่องนี้ต้องดูให้ดี ถึงแม้ตู้ที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือนั้นจะอยู่ภายในบูธเดียวกัน แต่ก็มาจากคนละดีลเลอร์ อาทิ Jaymart , TG Fone หรือ Power Buy เป็นต้น เมื่อได้ข้อมูลของสเปก ราคา ส่วนลด และของแถมต่างๆ ตามแต่ละตู้ แต่ละบูธที่เราเดินถามแล้ว ก็ให้นำมาเปรียบเทียบกัน จะได้รู้ว่าแบบไหนคุ้มค่ามากที่สุดซึ่งอาจใช้เวลามากหน่อย แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้ในสิ่งที่ดีที่สุดกลับบ้านไป 

5. อย่าลืมที่จะสอบถามเงื่อนไขการประกัน

เรื่องของการประกันตัวเครื่องนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเมื่อเกิดความเสียหายกับตัวอุปกรณ์แล้ว เราจะได้รู้ว่าเราได้รับสิทธิ์ดูแลในส่วนใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ แบตเตอรี่ ฮาร์ดแวร์ภายใน ไปจนถึงประกันของอุปกรณ์เสริม เนื่องจากตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมนั้นมีระยะเวลาการรับประกันที่ไม่เท่ากัน ไปจนถึงเงื่อนไขในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องและส่งเคลมเครื่องอีกด้วย

6. เช็กสภาพเครื่องให้แน่ใจก่อนออกจากบูธ

เมื่อตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือแล้ว ขอให้ตรวจสอบสภาพกล่องและตัวเครื่องให้เรียบร้อย ว่ามีรอย หรือสิ่งผิดปกติรึเปล่า เปิดเครื่อง เช็กกล้อง ฟังเสียงจากลำโพง จากนั้นก็ใส่ซิมทดลองโทรออกและรับสาย หากเกิดความผิดปกติ เราก็สามารถที่จะขอเคลมเพื่อเปลี่ยนเครื่องได้ทันที อย่าเพิ่งตื่นเต้นกับการได้สมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ ขอให้มีสติ

7. ไม่ลืมที่จะหยิบของแถมออกมาด้วย

เมื่อได้โทรศัพท์มือถือแล้ว ต้องไม่ลืมว่าเรายังได้ของแถมเพิ่มมาด้วย ห้ามลืมหยิบกลับบ้านโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่คุ้มน่ะสิ อุตสาห์เดินทางมาซื้อตั้งไกล

ขอบคุณข้อมูล Sanook! Hitech