'Huawei' อาจต้องยุติทำการค้ากับ 'Google' เป็นผลมาจากคำสั่งของ 'Donald Trump'

Huawei
หากใครที่ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมทางการสหรัฐฯ จะต้องแบนสินค้าจาก 'Huawei' ด้วย เราก็ต้องขอเท้าความย้อนกลับไปก่อนว่าในความเป็นจริงแล้วจีนและสหรัฐฯ นั้นมีปัญหาเรื่องการค้ากันมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงแบรนด์เทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน อย่าง 'หัวเว่ย' ก็ติดร่างแหนี้ตามไปด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี 'Donald Trump' ออกคำสั่งทางการบริหาร (Executive Order) โดยมีเนื้อหาครอบคลุมว่า ห้ามบริษัทสัญชาติอเมริกันใช้อุปกรณ์สื่อสารของต่างชาติที่ "อาจ" เป็นภัยความมั่นคง อีกทั้ง Huawei ก็ถูกขึ้นบัญชีดำทางการค้า หรือ Trade Blacklist เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด คำสั่งที่ทางการสหรัฐออกมานั้นก็เริ่มมีผลแล้ว โดย 'Google' พันธมิตรรายใหญ่ที่ทำธุรกิจกับ Huawei มาอย่างยาวนานก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวกับคำสั่งนี้แล้ว ซึ่งจะจำเป็นที่จะต้องทำตามและได้ระงับส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Hardware , Software และการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบให้กับผู้ใช้งานในจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึง User ที่อยู่นอกประเทศจีนด้วย ทำให้โทรศัพท์มือถือ Huawei จะถูกจำกัดสิทธิ์ในการใช้งานระบบปฏิบัติการ 'Android' ไม่สามารถเข้าใช้งานบริการของ 'กูเกิล' ได้ อาทิ Chrome , Gmail , YouTube , Google Play Store และอื่นๆ
ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้ดูสิ้นหวังไปซะทีเดียว ถึงหัวเว่ยจะไม่สามารถทำการค้าด้วยแบรนด์ Android ได้แล้ว แต่ก็ยังมีส่วนของ AOSP (Android Open Source Project) ที่เปิดเป็นโอเพนซอร์สให้สามารถนำเอาโค๊ดไปดัดแปลงเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันของตัวเองได้ ซึ่งจากการวิเคราะห์ หากคำสั่งนี้ยังไม่มีผลต่อระบบปฏิบัติการและบริการต่างๆ ของ Google ทุกอย่างก็จะยังคงใช้งานได้ตามปกติ แต่หากเมื่อไหร่ที่คำสั่งนี้ได้รับการปฏิบัติ ก็มีแนวโน้มว่าแอปฯ และบริการต่างๆ จากกูเกิลจะหายไปจากเครื่อง ยกเว้นชาวจีนทั้งหลายที่ใช้โทรศัพท์มือถือ Huawei ทุกวันนี้ล้วนแต่ใช้ Application เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น เนื่องจากจีนเองก็ไม่ให้ใช้ Google เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ส่วนโทรศัพท์มือถือหัวเว่ยรุ่นเรือธงที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต อย่าง Mate 30 Series ในช่วงปลายปีก็คงจะต้องติดตามว่าหัวเว่ยจะมีแผนรับมือกับการเหตุการ์ณนี้ต่อไปยังไง หรือกำหนดการเปิดตัวจะเลื่อนออกไปอีกหรือไม่ ส่วนผู้ใช้งานในประเทศไทยก็ขอให้รออัปเดตจากทาง Huawei ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
Huawei
ขอบคุณข้อมูล : Sanook! Hitech

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น